ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
(สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานกล้องวงจรปิด)
- “บริษัท”
- หมายความว่า บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) และหมายความรวมถึง ผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย
- “ข้อมูลส่วนบุคคล”
- หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว”
- หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมืองความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งอาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนด
- “ฐานทางกฎหมาย”
- หมายความว่า เหตุที่กฎหมายรองรับให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- “ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV)”
- หมายความว่า ระบบการบันทึกภาพ เคลื่อนไหวที่ถูกจับภาพโดยกล้องวงจรปิด ที่ได้ติดตั้งตามบริเวณต่างๆ มายังเก็บไว้ในฐานข้อมูลระบบกล้องวงจรปิดที่บริษัทเป็นผู้ดูแล และควบคุม
- ข้อมูลระบุตัวตน
- ได้แก่ ภาพเคลื่อนไหว หรือภาพนิ่งซึ่งสามารถที่จะสามารถจดจำได้ว่าเป็นท่าน เสียงของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาทิ ยานพาหนะ เมื่อเข้าไปในพื้นที่ที่ได้ทำการตรวจสอบภายในสถานที่ อาคารและพื้นที่ใด ๆ ของเรา ผ่านระบบและอุปกรณ์กล้องวงจรปิด (CCTV)
- – เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และลูกค้า หรือบุคคลอื่น
- – เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล
- – เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- – เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด
- (1) เพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย ความปลอดภัยอนามัยส่วนบุคคล และ/หรือทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
- (2) เพื่อควบคุมการเข้ามาภายในอาคารและเพื่อการรักษาความปลอดภัยของอาคาร บุคลากร พนักงาน และผู้มาติดต่อรวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูล ของเราที่ตั้งอยู่หรือเก็บไว้ในสถานที่นั้น ๆ
- (3) เพื่อการปกป้อง/ป้องกันสถานที่อาคาร พื้นที่ต่าง ๆ และทรัพย์สินของเรา จากความเสียหาย การหยุดชะงัก การทำลาย และอาชญากรรมอื่น ๆ
- (4) เพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นในขณะทำการลงโทษทางวินัยหรือการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์
- (5) เพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนสอบสวนหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียน และการแจ้งเบาะแส
- (6) เพื่อนำไปใช้ในการพิสูจน์หรือหักล้างในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงาน
- (7) เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของเรา และ/หรือ การให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐและหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย สำหรับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อความ ปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เราเล็งเห็นว่าการใช้ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่เหล่านั้นได้
- (8) เพื่อการใช้สิทธิของเราหรือปกป้องผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราในกรณีที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพื่อระงับยับยั้ง ป้องกันและตรวจจับการประพฤติมิชอบ อาชญากรรมหรือการฝ่าฝืนกฎหมาย ติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและ รายงานการประพฤติมิชอบหรืออาชญากรรมในร้านค้าของเราและเพื่อปกป้องความปลอดภัยและความมั่นคงของธุรกิจของเรา พวกเราจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและของ บุคคลที่สาม และสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของท่านที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลบนระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ตามแต่กรณี เราจะพยายามระบุถึงขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสมดุลที่เหมาะตามแต่สมควร
- 1. สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้ โดยการเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องสมบูรณ์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการเพิกถอนความยินยอมนั้น
- 2. สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่ท่านได้
- 3. สิทธิร้องขอให้โอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมิสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นหรือตัวท่านเองได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
- 4. สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
- 5. สิทธิร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
- 6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
- 7. สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้
- 8. สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือพนักงานหรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั้งนี้ ท่านสามารถแจ้งการใช้สิทธิดังกล่าวแก่บริษัทได้โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อมูลการติดต่อของบริษัทซึ่งอยู่ด้านล่างนี้ในกรณีที่บริษัทไม่อาจทำตามคำขอของท่านได้ บริษัทจะอธิบายเหตุผลของการปฏิเสธไปพร้อมกับคำตอบสนองดังกล่าว
- สำนักงานใหญ่ที่อยู่: 130-132 อาคารสินธร ทาวเวอร์ 2 ชั้นที่ 9 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินีเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
- เบอร์โทรศัพท์ : 02-6507779
- สำนักงานสาขา00002 ที่อยู่ : 49/42 หมู่5 ตำบลทุงสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20230
- สำนักงานสาขา00003 ที่อยู่ : เลขที่ 7/474 หมู่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง 21140
- สำนักงานสาขา00004 ที่อยู่ : เลขที่ 119/1 หมู่6 ตำบลทับยายเชียง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
- อีเมล์ : privacy@exoticfoodthailand.com
- เว็บไซต์ : www.exoticfoodthailand.com
ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
(สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน)
บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใดๆ ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทจึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ (“ประกาศ”) เพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยประกาศฉบับนี้จะครอบคลุมถึงท่านซึ่งเป็น ผู้สมัครงาน
- “บริษัท”
- หมายถึง บริษัท เอ็กโซติคฟู้ด จำกัด(มหาชน)และหมายความรวมถึง ผู้กระทำการแทนของบริษัทดังกล่าวด้วย
- “ข้อมูลส่วนบุคคล”
- หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมแต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว”
- หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งอาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- “ฐานทางกฎหมาย”
- หมายถึง เหตุที่กฎหมายรองรับให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- “ผู้สมัครงาน”
- หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งแสดงความประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือกหรือสัมภาษณ์งาน เพื่อทำสัญญากับบริษัทเป็นพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว รวมถึงพนักงานรับเหมาค่าแรง หรือบุคลากรในตำแหน่งอื่นใดที่ทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ใด ๆ ให้กับบริษัท และได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ และค่าตอบแทนอื่น ไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรเพื่อตอบแทนการทำงาน ทั้งนี้ ไม่ว่าจะแสดงความประสงค์ด้วยตนเองมายังบริษัทโดยตรง หรือผ่านการดำเนินการของบริษัทจัดหางานภายนอก หรือองค์กรภายนอกอื่นใด รวมถึงบุคลลที่แสดงความประสงค์ที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ฝึกงานกับบริษัท
- “บุคคลที่เกี่ยวข้อง”
- หมายถึง บุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัท เช่น สมาชิกในครอบครัว บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น รวมถึงบุคคลที่สามอื่น ๆ ที่ผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้ตามวัตถุประสงค์ของประกาศฉบับนี้
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้ ตามความจำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ของบริษัทที่แจ้งในประกาศฉบับนี้
- ข้อมูลระบุตัวตนและข้อมูลติดต่อทั่วไป
- ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ ชื่อสกุล ชื่อเล่น อายุ เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ปัจจุบันหรือที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน รูปภาพ ลายมือชื่อ สถานะความเป็นอยู่ สถานะการสมรส สถานะครอบครัว หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัว อีเมลส่วนตัว เป็นต้น
- ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาการฝึกอบรม การทำงานความเชี่ยวชาญและทักษะพิเศษ
- ได้แก่ ประวัติการศึกษาและการฝึกอบรม ข้อมูลการอบรมและการทดสอบ กิจกรรมที่เข้าร่วมระหว่างศึกษา ทักษะในการทำงาน ทักษะภาษา ความรู้พิเศษ ประสบการณ์และประวัติการทำงาน สถานที่ทำงานเก่าและปัจจุบัน ระยะเวลาการทำงานในอดีตถึงปัจจุบัน ตำแหน่งงานและเงินเดือนที่ต้องการ วันที่สมัครงาน เป็นต้น
- ข้อมูลตามเอกสารอ้างอิง
- ได้แก่ ข้อมูลที่ปรากฏในประวัติส่วนตัว (Curriculum Vitae / Resume) ใบสมัครงาน เอกสารอื่น ๆ (เช่น กรณีมีการแนบเอกสารเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร) บัตรประชาชนหนังสือเดินทาง ใบขับขี่ ใบสำคัญการผ่านเกณฑ์ทหาร หนังสือรับรองการทำงาน หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน สมุดบัญชีธนาคาร ทะเบียนบ้าน หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ บัตรประกันสังคม ใบอนุญาตในการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพในประเทศไทย ใบรับรองการศึกษาวุฒิบัตร เอกสารรับรองคุณวุฒิ หนังสือรับรองเกี่ยวกับครอบครัว นามบัตร แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน หนังสือยินยอมให้สอบประวัติบุคคล รายงานผลการสอบประวัติบุคคล หนังสือรับรองคุณวุฒิ ใบแสดงผลการศึกษาความสามารถด้านภาษา ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ข้อมูลเอกสารอื่น ๆ ที่ได้ให้ไว้กับบริษัท เป็นต้น
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
- ได้แก่ ศาสนา หมู่โลหิต ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนักและส่วนสูง โรคประจำตัว อุณหภูมิร่างกาย ผลตรวจสุขภาพ เป็นต้น
- ข้อมูลอื่นๆ
- เช่น ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัท หรือเสียงการสนทนา ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกผ่านโปรแกรมประชุมออนไลน์ ข้อมูลคุกกี้ ข้อมูล IP address, ข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ (logfile) เป็นต้น
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมดังต่อไปนี้
- จากตัวท่านเองโดยตรง
- โดยผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งดังต่อไปนี้• ผ่านทางวาจา ได้แก่ กรณีการพูดคุยต่อหน้า หรือทางโทรศัพท์ เป็นต้น• ผ่านทางเอกสาร ได้แก่ แบบฟอร์มใบสมัครงาน จดหมายแนะนำตัว ประวัติย่อการทำงาน (Curriculum Vitae / Resume) แบบฟอร์มใบสมัครงาน นามบัตร หรือเอกสารอื่น ๆ ที่
เกี่ยวข้องกับกระบวนการสมัครงานของบริษัท เป็นต้น• ผ่านทางช่องทางการติดต่ออื่น ได้แก่ อีเมล โทรสาร ช่องทางการติดต่อออนไลน์ เช่น เว็บไซต์จัดหางานที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้สำหรับการสมัครงานในตำแหน่งที่บริษัทเปิดรับสมัคร เป็นต้น
- จากแหล่งอื่น ๆ
หรือบุคคลที่สาม - กรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครงาน• องค์กรนายหน้าจัดหางาน บุคคลที่ท่านได้อ้างอิงในใบสมัครงานเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานของท่าน หรือองค์กรอื่นที่ท่านได้เคยหรือได้ทำงานให้ องค์กรของรัฐ บุคคลที่เป็นนายจ้างของท่านในกรณีที่ท่านสมัครเป็นพนักงานรับเหมาค่าแรงของบริษัท มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาอื่น ๆ อาจารย์มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เป็นต้นกรณีที่ท่านเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงาน• ได้แก่ ผู้สมัครงานของบริษัทซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับท่าน
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้และ/หรือเปิดเผยภายใต้วัตถุประสงค์และโดยอาศัยฐานทางกฎหมายฐานใดฐานหนึ่งตามแต่กรณีที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือบุคคลที่สาม
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล
- เพื่อการดำเนินการอื่นใดภายใต้ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล
- เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด
- เพื่อการดำเนินการอื่นใดภายใต้ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลหากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากที่ปรากฏในประกาศนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ/หรือแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวอีกครั้ง รวมถึงบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใหม่ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องได้รับความยินยอม ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากที่ปรากฏในประกาศนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ/หรือแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวอีกครั้ง รวมถึงบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใหม่ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องได้รับความยินยอม ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- เพื่อพิจารณาใบสมัคร การนำข้อมูลมาใช้และเปิดเผยเป็นการภายในบริษัทเพื่อใช้ประกอบการสัมภาษณ์ การประเมินความสามารถ คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ผู้สมัครงานได้ลงสมัครไว้ ตลอดจนตำแหน่งอื่น ๆ ที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม รวมถึงการติดต่อเพื่อนัดสัมภาษณ์ การแจ้งผลการสัมภาษณ์และการเสนอตำแหน่งงาน เพื่อการเข้าทำสัญญาจ้างกับท่าน
- เพื่อตรวจสอบประวัติของผู้สมัครงานจากบุคคลหรือองค์กรภายนอก รวมถึงการตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของท่าน เช่น กฎหมายการทำงานของคนต่างด้าว และอาชีพที่ต้องมีเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น และดำเนินการช่วยเหลือให้ท่านได้มาซึ่งคุณสมบัติดังกล่าว เช่น การยื่นคำขอใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว การยื่นขอวีซ่า เป็นต้น รวมถึงการตรวจสอบและจัดเก็บข้อมูลสุขภาพและข้อมูลอื่นที่จำเป็นต่อการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมกับตำแหน่งงานของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองแรงงานและสวัสดิภาพในการทำงาน
- เพื่อบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการพิจารณาและติดต่อกับท่าน เมื่อบริษัทเปิดรับสมัครในตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้หรือตำแหน่งงานอื่นใดในอนาคตซึ่งบริษัทเห็นว่าเหมาะสมกับท่าน (เฉพาะกรณีที่ท่านไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานหรือไม่เข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทด้วยเหตุผลประการอื่น)
- เพื่อดำเนินการของบริษัทในงานด้านการควบคุมคุณภาพ การตรวจสอบภายใน การควบคุมภายใน การตรวจสอบมาตรฐานระบบการจัดการบริหารงานคุณภาพของบริษัท รวมไปถึงการเปิดเผยข้อมูลให้แก่แผนกอื่นภายในบริษัทและแก่บริษัทภายนอกที่ได้รับการรับรองให้ตรวจสอบมาตรฐานระบบการจัดการบริหารงานคุณภาพของบริษัท
- เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท เช่น การดำเนินคดีตามกฎหมายการริเริ่มคดี การต่อสู้คดี การระงับข้อพิพาทนอกศาล และการดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทตามที่มีกฎหมายอนุญาต
- เพื่อพิจารณาตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติของผู้สมัครงาน ซึ่งอาจรวมถึงการนำข้อมูลมาใช้และเปิดเผยเป็นการภายในบริษัทเพื่อใช้ประกอบการสัมภาษณ์ การประเมินความสามารถ คุณสมบัติ และความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ผู้สมัครงานได้ลงสมัครไว้ ตลอดจนตำแหน่งอื่น ๆ ที่บริษัทเห็นว่าเหมาะสม
- เพื่อติดต่อประสานงานกับท่านในกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดกับผู้สมัครงานภายในบริเวณของบริษัท หรือระหว่างปฏิบัติหน้าที่ให้บริษัท (กรณีที่ผู้สมัครงานเข้าทำสัญญาจ้างเป็นพนักงานของบริษัท)
- เพื่อบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาและติดต่อกับผู้สมัครงาน เมื่อบริษัทเปิดรับสมัครในตำแหน่งงานที่ผู้สมัครงานได้สมัครไว้หรือตำแหน่งงานอื่นใดในอนาคตซึ่งบริษัทเห็นว่าเหมาะสมกับผู้สมัครงาน (เฉพาะกรณีที่ผู้สมัครงานไม่ผ่านการสัมภาษณ์งานหรือไม่เข้าทำสัญญาจ้างกับบริษัทด้วยเหตุผลประการอื่น)
- เพื่อบันทึกหรือเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในทะเบียนประวัติของพนักงาน และดำเนินการใด ๆ เพื่อการให้สวัสดิการกับพนักงาน (กรณีที่ผู้สมัครงานเข้าทำสัญญาจ้างเป็นพนักงานของบริษัท)
- เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท เช่น การดำเนินคดีตามกฎหมายการริเริ่มคดี การต่อสู้คดี การระงับข้อพิพาทนอกศาล และการดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทตามที่มีกฎหมายอนุญาต
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของท่านในการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือฝึกงานกับบริษัท ซึ่งในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถประเมินความสามารถและความเหมาะสมของท่านอย่างถูกต้อง ซึ่งในบางกรณีที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสำคัญต่อตำแหน่งที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทอาจตัดสินใจไม่รับท่านเข้าทำงานหรือฝึกงานด้วยเหตุผลที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว รวมถึงกรณีที่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานไม่ให้ขอ้ มูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครงาน บริษัทอาจไม่สามารถประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ที่เหมาะสมเพื่อการรับผู้สมัครงานเข้าทำงานหรือฝึกงานกับบริษัทได
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี แก่บุคคลหรือองค์กรใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้
- ลูกค้าของบริษัท หรือ คู่ค้าของบริษัท ผู้ให้บริการและตัวแทนที่บริษัทว่าจ้าง เช่น ผู้ให้บริการด้านระบบไอทีหรือฐานข้อมูลอื่น ๆ นายหน้าจัดหางาน ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดหางาน ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางธุรกิจ หรือที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญอื่นภายนอกบริษัท
- บุคคลที่ท่านได้อ้างอิงไว้ในเอกสารที่ใช้เก็บข้อมูลส่วนบุคคล
- องค์กรที่ผู้สมัครงานเคยทำงานให้ หรือบุคคลที่ผู้สมัครงานได้อ้างอิงไว้
- หน่วยงานของรัฐ เช่น กระทรวงแรงงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถานทูต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานีตำรวจ เป็นต้น
- หน่วยงานเอกชน เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถานพยาบาล เป็นต้น
- พนักงานตำรวจ ศาล อนุญาโตตุลาการ ทนายความ บุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดีและการระงับข้อพิพาท
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายกิจการ การควบรวมกิจการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการพิจารณาเข้าทำสัญญาจ้างแรงงานกับท่าน และเมื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาดังต่อไปนี้
- ในกรณีที่บริษัทรับท่านเข้าทำงาน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาของสัญญาจ้างและหลังจากสัญญาจ้างสิ้นสุดลงเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี
- ในกรณีที่ท่านไม่ได้เข้าทำงานกับบริษัทไม่ว่าด้วยเหตุใด เช่น บริษัทปฏิเสธไม่รับท่านเข้าทำงานหรือท่านปฏิเสธจะเข้า ทำงานกับบริษัท บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนับจากวันสัมภาษณ์งาน และในกรณีที่ท่าน ยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านไว้ในฐานข้อมูลของบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์ใน การรับสมัครงาน ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความออ่ นไหวของท่านก็จะถูกเก็บรักษาไว้ในระยะเวลาเดียวกัน
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วนอาจถูกเก็บรักษาเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ข้างต้นสำหรับการ
นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และการปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท โดยในกรณีดังกล่าวข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาตลอดระยะเวลาที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และหรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ท่านมีสิทธิตามกฎหมายในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ ดังนี้
- สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้ โดยการเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องสมบูรณ์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการเพิกถอนความยินยอมนั้น
- สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่ท่านได้
- สิทธิร้องขอให้โอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมิสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นหรือตัวท่านเองได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
- สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
- สิทธิร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
- สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้
- สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือพนักงานหรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ ท่านสามารถแจ้งการใช้สิทธิดังกล่าวแก่บริษัทได้โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อมูลการติดต่อของบริษัทซึ่งอยู่ด้านล่างนี้ ในกรณีที่บริษัทไม่อาจทำตามคำขอของท่านได้ บริษัทจะอธิบายเหตุผลของการปฏิเสธไปพร้อมกับคำตอบสนองดังกล่าว
บริษัทขอสงวนสิทธ์ิในการแกไ้ ขปรับปรุงประกาศความเป็นสว่ นตัวฉบับนี้ตามสมควร โดยประกาศฉบับนี้ได้รับการแก้ไขปรับปรุงครั้งล่าสุดในวันที่ 1 มิถุนายน 2566
- สำนักงานใหญ่ที่อยู่: 130-132 อาคารสินธร ทาวเวอร์ 2 ชั้นที่ 9 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินีเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
- เบอร์โทรศัพท์ : 02-6507779
- สำนักงานสาขา00002 ที่อยู่ : 49/42 หมู่5 ตำบลทุงสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20230
- สำนักงานสาขา00003 ที่อยู่ : เลขที่ 7/474 หมู่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง 21140
- สำนักงานสาขา00004 ที่อยู่ : เลขที่ 119/1 หมู่6 ตำบลทับยายเชียง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
- อีเมล์ : privacy@exoticfoodthailand.com
- เว็บไซต์ : www.exoticfoodthailand.com
ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
(สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ)
- “บริษัท”
- หมายถึง บริษัทเอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) และหมายความรวมถึง ผู้กระทำการแทนของบริษัท
- “ข้อมูลส่วนบุคคล”
- หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
- “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มี ความอ่อนไหว”
- หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งอาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- “ฐานทางกฎหมาย”
- หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ขายหรืออาจจะเสนอขายสินค้าและ/หรือบริการแก่บริษัท หรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัท หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ไม่รวมถึงลูกค้าของบริษัท
- “คู่ค้า”
- หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ขายหรืออาจจะเสนอขายสินค้าและ/หรือบริการแก่บริษัท หรือได้ลงทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัท หรือมีความสัมพันธ์อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ไม่รวมถึงลูกค้าของบริษัท
- “บุคคลที่เกี่ยวข้อง”
- หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นพนักงาน ตัวแทนหรือบุคคลธรรมดาอื่นใดที่กระทำการแทนหรือในนามคู่ค้าของบริษัท
- ข้อมูลระบุตัวตนและข้อมูลติดต่อทั่วไป
- ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ ชื่อสกุล ชื่อเล่น อายุ เพศ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ รูปภาพ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง ข้อมูลใบขับขี่ ลายมือชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัว อีเมลส่วนตัว และข้อมูลบุคคลที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคู่ค้า
- ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน
- ได้แก่ ตำแหน่งงาน แผนกที่สังกัด สถานที่ทำงาน อีเมล์ของสำนักงานซึ่งระบุชื่อของท่าน เป็นต้น
- ข้อมูลตามเอกสารแนบ
- ได้แก่ นามบัตร บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี ใบสั่งซื้อ ใบเสนอราคา หนังสือรับรอง ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และเอกสารอื่น ๆ เป็นต้น
- ข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีความอ่อนไหว
- ได้แก่ ศาสนา หมู่โลหิต ซึ่งปรากฏบนสำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น
- ข้อมูลอื่นๆ
- เช่น ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัท ในกรณีที่ท่านเข้ามายังบริเวณของบริษัท เป็นต้น
- จากตัวท่านเองโดยตรง
- โดยผ่านชอ่งทางใดช่องทางหนึ่งดังต่อไปนี้• ผ่านทางวาจา ได้แก่ กรณีการพูดคุยต่อหน้า หรือทางโทรศัพท์ เป็นต้น• ผ่านทางเอกสาร ได้แก่ นามบัตร เอกสารสัญญา เอกสารข้อตกลง หนังสือรับรองบริษัทแบบฟอร์ม หรือเอกสารอื่น ๆ เป็นต้น• ผ่านทางช่องทางการติดต่ออื่น ได้แก่ อีเมล์ โทรสาร เครือข่ายออนไลน์ เป็นต้น
- จากแหล่งอื่น ๆ หรือบุคคลที่สาม
- โดยผ่านชอ่งทางใดช่องทางหนึ่งดังต่อไปนี้• จากแหล่งอื่นหรือจากบุคคลที่สาม ได้แก่ นิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นนายจ้างหรือผู้ว่าจ้างของท่าน ผู้จำหน่ายสินค้า/ผู้ให้บริการ ผู้เสนอแนะบริการหรือสินค้าของท่านให้กับบริษัท หรือคู่ค้า ทางธุรกิจของบริษัท เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลธุรกิจ หรือเครื่องมือค้นหาข้อมูลสำหรับการติดต่อธุรกิจ ธนาคาร หน่วยงานของรัฐ แหล่งข้อมูลสาธารณะ (เช่น เว็บไซต์) เป็นต้น• จากแหล่งการติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชมแก่บริษัทของท่าน รวมไปถึง จากการแสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัทของท่าน การเข้าทำสัญญากับบริษัทหรือการส่งมอบเอกสารต่าง ๆ เป็นต้น
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และลูกค้า หรือบุคคลอื่น
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และสุขภาพของบุคคล
- เพื่อการดำเนินการอื่นใดภายใต้ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล
- เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด
- เพื่อการดำเนินการอื่นใดภายใต้ความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูล
- เพื่อการติดต่อสื่อสารและดำเนินการต่างๆ เพื่อเจรจาก่อนการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่าน กระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้าง เช่น การนัดประชุม การทำใบเสนอราคา การทำคำสั่งซื้อก่อนเข้า ทำสัญญา การเจรจาเพื่อเข้าทำสัญญาและการตกลงขอบเขตของข้อสัญญา การตรวจสอบและลงทะเบียนคู่ค้าในฐานข้อมูลของบริษัท รวมไปถึงการพิจารณาคุณสมบัติคู่ค้าตามนโยบายบริษัท
- เพื่อการเข้าทำสัญญาและการปฏิบัติตามสัญญา เช่น การติดต่อสื่อสารงาน การดำเนินการตามคำสั่งซื้อสินค้า/บริการการให้บริการตามสัญญา การจัดส่งสินค้า การติดตามผลของการให้บริการ การติดตามสินค้าที่สั่งซื้อหรือบริการที่ร้องขอการดำเนินการเพื่อส่งและรับสินคา้ หรือบริการ การชำระค่าสินค้าหรือบริการ เป็นตน้ รวมถึงการเปดิ เผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ผู้รับเหมา ผู้ให้บริการหรือผู้เชี่ยวชาญภายนอก ลูกค้าหรือคู่ค้าอื่นของบริษัท ธนาคาร องค์กรของรัฐ เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวรวมถึงการดำเนินการแก้ปัญหาอันเกี่ยวกับสินค้า ทั้งนี้วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและเปิดเผยจะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและบริการนั้นๆ นอกจากนี้ การเข้าทำสัญญาและการปฏิบัติตามสัญญาในข้อนี้ให้รวมถึงการติดต่อประสานงานกับ ท่านในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสัญญาด้วย เช่น การขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและรายละเอียดอื่นๆ ในสัญญาการต่ออายุสัญญา เป็นต้น
- เพื่อการเรียกเก็บค่าสินค้าหรือบริการ การออกใบเสร็จรับเงิน การดำเนินการใดๆ เพื่อติดตามทวงหนี้ กรณีที่ท่านซึ่งเป็นคู่ค้าหรือบุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้าง ผิดนัดไม่ส่งมอบสินค้าหรือบริการ
- เพื่อจัดการเกี่ยวกับองค์กรและการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การตรวจสอบและพัฒนาการให้บริการ การจัดการด้านระบบและฐานข้อมูล การขออนุญาตประกอบกิจการกับหน่วยงานรัฐ การสอบบัญชี การตรวจสอบภายใน การขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางธุรกิจ การเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่สถาบันการเงินเพื่อการขอสินเชื่อของบริษัท การซื้อขายกิจการ การควบรวมกิจการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร รวมถึงการรายงานขอ้ มูลลูกค้า ของบริษัทไปยังบริษัทแม่เพื่อประโยชน์ในการติดต่อธุรกิจระหว่างประเทศ และการบริหารจัดการองค์กรในกลุ่มในเครือ
- เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท เช่น การออกใบกำกับภาษี การจัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลทางบัญชีให้แก่ผู้ตรวจสอบบัญชี และหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายและคำสั่งของผู้มีอำนาจ
- เพื่อการเก็บข้อมูลการติดต่อสื่อสารของท่านต่อไปบนฐานข้อมูลบริษัทเพื่อการติดต่อทางธุรกิจในอนาคต รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บริษัทในเครือ เพื่อการติดต่อและสานสัมพันธ์เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคต
- เพื่อการปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท เช่น การดำเนินคดีตามกฎหมาย การริเริ่มคดี การต่อสู้คดี การระงับข้อพิพาทนอกศาล และการดำเนินการอื่น ๆ เพื่อปกปอ้ งสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทตามที่มีกฎหมายอนุญาต
- บริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มในเครือ คู่ค้าทางธุรกิจ และผู้ให้บริการภายนอกและตัวแทนที่บริษัทดังกล่าวว่าจ้าง
- หน่วยงานของรัฐ เช่น กรมสรรพากร กรมศุลกากร ประกันสังคม เป็นต้น
- ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย
- พนักงานตำรวจ ศาล อนุญาโตตุลาการ ทนายความ บุคคลหรือหน่วยงานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดีและการระงับข้อพิพาท
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายกิจการ การควบรวมกิจการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร
- สิทธิร้องขอให้โอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมิสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นหรือตัวท่านเองได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
- สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือพนักงานหรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- สำนักงานใหญ่ที่อยู่: 130-132 อาคารสินธร ทาวเวอร์ 2 ชั้นที่ 9 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินีเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
- เบอร์โทรศัพท์ : 02-6507779
- สำนักงานสาขา00002 ที่อยู่ : 49/42 หมู่5 ตำบลทุงสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี 20230
- สำนักงานสาขา00003 ที่อยู่ : เลขที่ 7/474 หมู่ 6 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง 21140
- สำนักงานสาขา00004 ที่อยู่ : เลขที่ 119/1 หมู่6 ตำบลทับยายเชียง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
- อีเมล์ : privacy@exoticfoodthailand.com
- เว็บไซต์ : www.exoticfoodthailand.com
นโยบายการใช้คุกกี้
บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน)
ลำดับ | ประเภทของคุกกี้ | รายละเอียด | ตัวอย่าง | ระยะเวลาจัดเก็บ |
---|---|---|---|---|
1 | คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) | คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการ เว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้ งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วย จดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การ ปิ ดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่าน ไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของบริษัท ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้ | cookielawinfo-checkbox-necessary | 1 ปี |
cookielawinfo-checkbox-functional | 1 ปี | |||
cookielawinfo-checkbox-performance | 1 ปี | |||
cookielawinfo-checkbox-analytics | 1 ปี | |||
cookielawinfo-checkbox-advertisement | 1 ปี | |||
cookielawinfo-checkbox-others | 1 ปี | |||
2 | คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการ ใช้งาน (Analytic and Performance Cookies) | คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้บริษัท ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ บริษัทยังใช้ข้อมูลนี้ เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น (การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้บริษัทไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้) | _fbp | 3 เดือน |
_ga_EP9XD30FJG | 1 ปี 1 เดือน 4 วัน | |||
_ga | 1 ปี 1 เดือน 4 วัน | |||
_gid | 1 วัน | |||
_gat_gtag_UA_138237739_1 | 1 นาที | |||
_hjFirstSeen | 30 นาที | |||
3 | คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies) | คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของบริษัทจดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่นช่วยจดจำการยอมรับ หรือยินยอมเงื่อนไขของนโยบายการใช้คุกกี้ของบริษัท(การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์) | wpwpml_current_language | session |
hjAbsoluteSessionInProgress | 30 นาที |
ประเภทของคุกกี้ คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) | |
รายละเอียด คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของบริษัทซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้ | |
• cookielawinfo-checkboxnecessary | 1 ปี |
• cookielawinfo-checkboxfunctional | 1 ปี |
• cookielawinfo-checkboxperformance | 1 ปี |
• cookielawinfo-checkboxanalytics | 1 ปี |
• cookielawinfo-checkboxadvertisement | 1 ปี |
• cookielawinfo-checkbox-others | 1 ปี |
ประเภทของคุกกี้ คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการ ใช้งาน (Analytic and Performance Cookies) | |
รายละเอียด คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้บริษัท ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ บริษัทยังใช้ข้อมูลนี้ เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น (การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้บริษัทไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้) | |
_fbp | 3 เดือน |
_ga_EP9XD30FJG | 1 ปี 1 เดือน 4 วัน |
_ga | 1 ปี |
_gid | 1 วัน |
_gat_gtag_UA_138237739_1 | 1 นาที |
_hjFirstSeen | 30 นาที |
ประเภทของคุกกี้ คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies) | |
รายละเอียด คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของบริษัทจดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่นช่วยจดจำการยอมรับ หรือยินยอมเงื่อนไขของนโยบายการใช้คุกกี้ของบริษัท(การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์) | |
wpwpml_current_language | session |
hjAbsoluteSessionInProgress | 30 นาที |
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Chrome
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Firefox
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Safari and iOS
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Microsoft EDGE
- การตั้งค่าคุกกี้ใน Internet Explorer